Blaze Heatnix เบลซ ฮีทนิกซ์ เพชรฆาตวิหคอมตะ ตอนที่ 1 : นายคือผู้ที่ถูกเลือก
"หลังจากสงครามจบแล้ว เจ้าคิดจะทำอะไรต่อล่ะ?" ดาบสีชาดเปล่งประกายแสงท่ามเปลวเพลิงสุดร้อนระอุกำลังพูดคุยกับชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่บนกองศพของทหารฝ่ายศัตรู
"เฮ้อ...มันไม่ง่ายเลยสำหรับคนอย่างข้าที่เกิดและเติบโตมาจากการฆ่าเพื่อที่จะมีชีวิตรอดในแต่ละวัน ข้าไม่เคยมีเวลาคิดเรื่องอื่นใดเลยด้วยซ้ำไป"
เสียงอันเย็นยะเยือกเปล่งออกมาจากชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่บนกองศพของเหล่าทหารฝ่ายศัตรูนับร้อยนาย โทนเสียงของชายคนนี้คมชัดมาก
'เบลซ ฮีทนิกซ์' เป็นทหารรับจ้างอิสระที่ถูกฝึกมาให้รู้จักการผ่อนคลายความเหนื่อยล้าทางกายภาพในสภาวะสงครามที่ยาวนาน ประวัติส่วนตัวของเค้าเป็นความลับสุดยอด มีเพียงสมยานามที่ถูกตั้งให้โดยเหล่าทหารรับจ้างคนอิ่นๆ ในสังกัด
"ไหนๆ สงครามก็จบไปแล้ว งั้นข้าขอกลับไปพักผ่อนยาวหน่อยละกัน" ชายหนุ่มผู้มีนามว่า เบลซ เดินจากไปโดยที่เค้าได้ทิ้งดาบสีชาดเล่มนั้น
หลังจากเบลซได้ถอนตัวออกจากภารกิจนี้แล้ว จู่ๆ ก็มีภารกิจด่วนจากสมาคมให้ส่งตัวเบลซไปทำงานสำคัญอย่างหนึ่ง นั่นก็คือปกป้องบุตรสาวแห่งตระกูล เซฟเฟี้ยน นามว่า 'ซอร์เนียร์' ในภารกิจนั้น เบลซ จะต้องปลอมตัวเป็นครูฝึกสอนเพลงดาบและพ่อบ้านเพื่อให้สามารถปกป้องบุตรสาวตระกูล เซฟเฟี้ยน ได้ทันท่วงที หากเบลซไม่ได้คำนึงถึงผลตอบแทนที่มากโขนั้น บางทีเค้าอาจจะไปรับงานที่น่าตื่นเต้นกว่านี้เช่น การล่าสัตว์ลึกลับ หรือไม่ก็สังหารหัวหน้าโจร หรืออะไรก็ได้ที่ดีกว่าต้องมานั่งฟังเหล่าคนรวยพูดพล่ามเรื่องชาวบ้านชาวช่องไปวันๆ ทุกคืน
"ย๊ะ!! ย๊ะ!!"
"แบบนั้นล่ะครับคุณหนู พยายามเหวี่ยงให้สุดแขนนะครับ"
แต่อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่างานนี้ก็อาจจะไม่ได้น่าเบื่อสำหรับเค้าซะทีเดียว มันทำให้ความรู้สึกมีแรงกระตุ้นของเค้ากลับมา ที่จริงต้องบอกว่ามันมากกว่าเดิมเสียอีก
"เฮ้อ...เหนื่อยชะมัด..." ช่วงเวลาพักผ่อนของเบลซได้มาถึง เค้าได้เดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะอาบน้ำ แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนเข้ามาอาบน้ำก่อน
"หืม? ดึกขนาดนี้แล้วยังมีคนมาอาบน้ำอยู่อีกเหรอ?" เบลซพูดลอยๆ ออกไปแล้วเดินตรงดิ่งเข้าไปในห้องอาบน้ำเพื่อดูว่าคนที่อยู่ข้างในนั้นเป็นใคร
"ว้าย!!" เสียงของหญิงสาวดังออกมาจากไอน้ำที่หนามาก
"เสียงผู้หญิงเหรอ?" เบลซมองเห็นผมสีแดงของหญิงสาวคนนั้น เค้าวิ่งตรงเข้าไปล็อกแขนเธอพร้อมกับจับกดลงพื้น
"เจ้าเป็นใครกัน!!"
"ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะไอ้โรคจิต!!" หญิงสาวผมแดงผลิกตัวกลับเพราะตัวเธอเต็มไปด้วยฟองสบู่จึงสามารถหมุนแขนให้หลุดออกมาจากมือของเบลซได้อย่างง่ายดายพร้อมกับเหวี่ยงเบลซกระเด็นตกลงไปในอ่างน้ำร้อน
"หนอย..." เบลซรีบลุกออกจากอ่างอาบน้ำอย่างไว แต่ทว่าหญิงสาวผมแดงคนนั้นหายไปจากห้องอาบน้ำเสียแล้ว
"ปัดโธ่!! หนีไปจนได้!!" เบลซวิ่งออกจากห้องอาบน้ำไป แต่หารู้ไม่ว่าหญิงสาวผมแดงคนนั้นยังอยู่ในห้องอาบน้ำ
"ถูกเห็นเข้าจนได้..." หญิงสาวผมแดงบ่นเสียงลอยๆ ออกมาก่อนที่จะหายเข้าไปในหมอกควัน
เช้าวันต่อมา...
"อะไรนะคะ? อาจารย์เจอผู้หญิงผมแดงอยู่ในห้องอาบน้ำ?" ซอร์เนียร์ที่กำลังซ้อมเหวี่ยงดาบพูดขึ้น
"ใช่" เบลซตอบกลับไปแบบเซ็งๆ
"ทำไมอาจารย์ถึงทำหน้าเหมือนคนเพิ่งจะพ่ายแพ้อะไรมาแบบนั้นล่ะคะ?"
"ในชีวิตฉันไม่เคยถูกใครเหวี่ยงลงพื้นได้ง่ายๆ แต่พอมาเจอผู้หญิงผมแดงคนนั้นเหวี่ยงลงอ่างอาบน้ำในชั่วพริบตาเดียว คือมันแบบ...เอ่อ...รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาน่ะ"
"เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ หนูจะทำเป็นไม่ได้ยินละกันนะคะ"
"ขอบใจมากนะ" เบลซเดินเข้าไปลูบหัวซอร์เนียร์เบาๆ
หลังจากที่เบลซลูบหัวซอร์เนียร์เสร็จ เค้าก็เดินกลับเข้าไปในห้องพัก ซอร์เนียร์รีบวิ่งตรงเข้าไปในห้องโถงของคฤหาสน์และยืนจ้องดูรูปภาพหญิงสาวผมแดงที่กำลังยืนถือดาบใหญ่ท่ามกลางเปลวเพลิงสีแสด
"หวังว่าผู้หญิงผมแดงที่อาจารย์พูดถึงคงไม่ใช่ท่านนะคะ..."
อีกฟากหนึ่งของคฤหาสน์เซฟเฟี้ยน ชายผู้ที่ถูกหญิงสาวลึกลับจับเหวี่ยงลงอ่างน้ำเดินทำหน้าไม่พอใจกับเรื่องที่เกิดเรื่องเมื่อคืนนี้ เค้านึกภาพตอนที่จับกดหญิงสาวคนนั้นลงพื้น เค้าได้สัมผัสผิวอ่อนนุ่ม หน้าอกที่กำลังพอดีมือ ใบหน้าที่เขินอายก่อนที่ตัวเองจะถูกจับเหวี่ยง นี่เป็นครั้งแรกที่เค้าเริ่มรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที ทั้งๆ ที่ตัวเค้าได้สัมผัสตัวหญิงสาวคนอื่นๆ ในคฤหาสน์มาแล้วนับไม่ถ้วน ทำไมกันนะ ทำไมเค้าถึงได้มีความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาล่ะ
"เดินทำหน้าแบบนั้นไม่สมกับเป็นนายเลย" เสียงชายปริศนาดังมาทางด้านหลังจนเบลซต้องรีบหันไปมอง
"ท่านเซฟเฟี้ยน!?"
เจ้าของเสียงนั้นคือผู้ว่าจ้างเบลซที่ให้มาปกป้องซอร์เนียร์นั่นเอง
"ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่ท่านเซฟเฟี้ยนมาหาผมนี่ มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ?"
"ตามข้ามาสิ"
เซฟเฟี้ยนได้พาเบลซเข้ามาในห้องโถงของคฤหาสน์ ข้างในห้องโถงนี้เต็มไปด้วยอาวุธและชุดเกราะโบราณเต็มไปหมด บางตัวมีสภาพที่ยังใช้งานได้และก็มีบางตัวที่เสียหายแต่ก็ยังคงมีสภาพที่มองออกว่ามันคืออะไร
"ที่นี่คือ..." เบลซหันหน้าไปถามเซฟเฟี้ยน
"ที่นี่คือห้องโถงที่เก็บอาวุธและชุดเกราะตอนยุคสมัยสงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจยังไงล่ะ"
"สงครามระหว่างมนุษย์และปีศาจ? นี่อย่าบอกนะว่าของพวกนี้คือของที่อยู่ใน่ช่วงสงครามเมื่อ 200 ปีก่อน"
"ถูกต้องแล้วล่ะ"
"ทำไมท่านเซฟเฟี้ยนถึงได้พาผมมาที่นี่ล่ะครับ"
"อ้อ ที่ข้าพาเจ้ามาที่นี่ก็เพื่อที่จะให้เจ้ายืนยันอะไรหน่อยน่ะ"
"ยืนยันอะไรเหรอครับ"
เซฟเฟี้ยนได้ชี้นิ้วไปที่รูปภาพบนเพดานของห้องโถง เบลซหันไปมองแล้วก็ถึงกับช็อกเลยทีเดียว
"นั่นมันรูปยัยหัวแดงตัวแสบนี่!?"
"ใช่จริงๆ สินะ?"
"ทำไมรูปผู้หญิงคนนี้ถึงได้..."
"เธอคนนี้คือเพชรฆาตวิหคอมตะยังไงล่ะ"
"เพชรฆาตวิหคอมตะ...?"
เพชรฆาตวิหคอมตะหรือชื่อจริงๆ ของเธอคนนี้คือ 'ไอริส' ได้เข้าสู่เส้นทางของสงครามตั้งแต่อายุ 13 ปี เธอทั้งกล้าหาญและปราดเปรื่อง ว่ากันว่าเธอตวัดดาบเพียงครั้งเดียวก็สังหารปีศาจยักษ์ที่มีขนาดใหญ่เท่าภูเขาได้ และก็ไม่เคยมีศัตรูคนไหนล้มเธอได้ แต่มีอยู่วันหนึ่งเธอได้เผชิญหน้ากับวิหคเพลิง หนึ่งในผู้นำทัพปีศาจสุดแกร่งของจอมมาร เธอได้ต่อสู้กับวิหคเพลิงจนสามารถเอาชนะมันได้ แต่ทว่าเธอได้ถูกสาปหลังจากสังหารวิหคเพลิงนั้นก็คือชีวิตอมตะ หลังจากที่เธอได้รับพลังอมตะมาแล้ว เธอต้องออกเดินทางตามล่าเหล่าปีศาจที่ยังหลงเหลือจากช่วงสงครามในครั้งนั้นโดยการกางปีกวิหคเพลิงบินไปตามจุดต่างๆ จนผู้คนต่างพากันเรียกเธอผู้นั้นว่าเพชรฆาตวิหคอมตะ
"ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา เธอก็ได้หายสาปสูญไปอย่างเงียบๆ" เซฟเฟี้ยนได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับหญิงสาวที่อยู่ในรูปให้เบลซฟังจนจบ
"งั้นก็แปลว่าผมบังเอิญไปเจอตัวเธอเข้าให้แล้วสินะครับ"
"คงจะยังงั้นนะ"
ช่วงระหว่างที่เซฟเฟี้ยนกับเบลซกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น หญิงสาวผมแดงก็ได้เดินผ่านหน้าประตูห้องโถงไป เบลซเหล่ตาไปเห็นพอดีจึงรีบวิ่งออกไปข้างนอกห้อง
"เฮ้!! ยัยหัวแดง!!" เบลซตะโกนเสียงใส่หญิงสาวผมแดงพร้อมกับชี้นิ้วใส่
"หืม?" หญิงสาวผมหันไปมองเบลซ
"เจอตัวแล้ว!!" เบลซรีบวิ่งตรงเข้าไปหาหญิงสาวผมแดง
"ไอ้โรคจิตนั้นนี่!? ทำไมหมอนั่นถึงมองเห็นข้าล่ะ?"
"เมื่อคืนนี้ทำได้แสบมากนักนะ" เบลซจับตัวหญิงสาวผมแดงได้และจับกดลงพื้นแบบเดียวกันกับเรื่องเมื่อคืนนี้อีกครั้ง
"โดนจับได้อีกแล้ว นี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ หมอนี่คือผู้ที่จะถูกเลือกงั้นเหรอ?"
"ผู้ที่ถูกเลือกอะไร? ฟังแล้วไม่เห็นจะเข้าใจ?"
"หึ!" หญิงสาวผมแดงโอบกอดเบลซพร้อมกับกางปีกเพลิงออกมา
"เฮ้ย!! นี่เธอกำลังจะทำอะไรน่ะ!?"
หญิงสาวผมแดงไม่ตอบ เธอได้พาตัวเบลซบินออกไปจากคฤหาสน์เซฟเฟี้ยนและตรงไปที่ภูเขาที่อยู่นอกเมืองจนลับสายตาผู้คน
"ที่นี่คงจะไม่มีใครแล้วสินะ" หญิงสาวผมแดงทิ้งตัวเบลซลงพื้นอย่างแรงก่อนที่เธอจะร่อนบินตามลงมา
"ทิ้งลงมาดื้อๆ งี้เลยเหรอ!! ถ้าเกิดฉันหลังหักขึ้นมาจะทำยังไง!!" เบลซตะคอกเสียงใส่หญิงสาวผมแดงด้วยความโมโห
"เจ้านี่ขี้โวยวายจริงๆ ตกลงมาแค่นี้ก็ร้องจะเป็นจะตาย ทหารรับจ้างอิสระมีดีได้แค่นี้เหรอไง?"
"นี่เธอรู้ได้ไงว่าฉันเป็นทหารรับจ้างอิสระน่ะ"
"ฉันอยู่ที่คฤหาสน์หลังนั้นก่อนที่นายจะมาซะอีก เรื่องที่ฉันคนนี้ไม่รู้น่ะไม่มีหรอก"
"นี่เธอจะบอกว่าเรื่องราวทั้งหมดของฉันก็..." "ใช่ ฉันรู้"
"เรื่องที่ฉันเก็บซ่อนอาวุธในห้องพักก็..." "ใช่"
"เรื่องที่ฉันอาบน้ำแล้วส่วนที่ฉันจะทำความสะอาดก่อนก็..."
"ใช่ ฉันก็...เอ๊ย!! ไม่ใช่นะ!!"
"นี่เธอแอบดูฉันอาบน้ำมาตลอดเวลาเลยเหรอ!!"
"ไม่ใช่นะ!!"
"ใครกันแน่ที่โรคจิต แบบนี้ต้องถูกลงโทษ!!"
เบลซจับหญิงสาวผมแดงมานอนบนตักพร้อมกับเอามือตีก้นไปสองสามที
"โอ้ยเจ็บนะ!!"
"เด็กทำตัวไม่ดีต้องถูกตีก้น นี่แน่ะๆ"
"มันจะมาไปแล้วนะอีตาบ้า!!" หญิงสาวผมแดงระเบิดไฟออกมาจนเบลซกระเด็นปลิวเข้าไปในพุ่มไม้
"เด็กงั้นเหรอ? นายน่าจะรู้เรื่องเกี่ยวกับฉันจากเซฟเฟี้ยนแล้วนี่ว่าฉันคนนี้คือเพชรฆาตวิหคอมตะเมื่อ 200 ปีก่อน"
"นี่เธอกำลังจะบอกว่าเธอคือเพชรฆาตวิหคอมตะที่มีชื่อ 'ไอริส' ยังงั้นเหรอ?"
"ใช่แล้ว ชื่อของฉันคือ ไอริส ออรันเจโล่"
เบลซถึงกับนิ่งเงียบเมื่อได้รู้ชื่อของหญิงสาวผมแดงคนนี้
"มาเข้าเรื่องกันดีกว่า นายอยากรู้ใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงได้พาตัวนายมาที่นี่"
"..." เบลซไม่ตอบแต่พยักหน้าให้
"นายน่ะ คือผู้ที่ถูกเลือกให้เป็นเพชรฆาตวิหคอมตะคนต่อไปยังไงล่ะ" "หา?" ++++++++ To Be Continued ++++++++ |